ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เริ่มงานวันแรกในฐานะผู้นำสหรัฐคนที่ 46 ด้วยการใช้อำนาจฝ่ายบริหาร ยกเลิกนโยบายอย่างน้อย 15 รายการของรัฐบาลชุดก่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้อำนาจฝ่ายบริหารลงนามในคำสั่ง 15 คำสั่ง เมื่อช่วงเย็นของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ ในบรรดาคำสั่งที่ไบเดนลงนามนั้น รวมถึงการสมัครกลับเข้าเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) การสมัครกลับเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีส คำสั่งให้สถานที่ราชการทุกแห่งของสหรัฐต้องมีมาตรการรักษาระยะห่าง พร้อมทั้งสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงาน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับอีกคำสั่ง คือ "เป้าหมาย 100 วัน" ในการ "ขอความร่วมมือ" ให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากอนามัยต่อเนื่อง 100 วัน และการควบรวมอำนาจในการบริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 ให้อยู่ที่หน่วยงานกลาง คือทำเนียบขาว
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐยังสั่งยกเลิกโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมัน "คีย์สโตน เอ็กซ์แอล" ที่มีการวางท่อเข้าสู่เขตอนุรักษ์หลายแห่ง สร้างความไม่พอใจอย่างหนักมานานนับทศวรรษให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ในสหรัฐ การยกเลิกมาตรการจำกัดวีซ่าและการระงับเข้าประเทศ "อย่างเจาะจง" ที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บังคับใช้เฉพาะกับบางประเทศ และการยุติโครงการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก โดยให้ใช้ของเดิมที่มีอยู่แล้วต่อไป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังไบเดนสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐคนที่ 46 อย่างเป็นทางการ และยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่รับตำแหน่งในวัยมากที่สุด คือ 78 ปี กล่าวในช่วงหนึ่งของสุนทรพจน์รับตำแหน่ง เรียกร้องความปรองดองและความสมานฉันท์จากทุกภาคส่วน และการฟื้นฟูบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ "อาศัยมากกว่าคำพูด"
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th